
อุตสาหกรรมป้องกันประเทศของรัสเซียกำลังสร้างอาวุธโจมตีพิเศษคือโดรนไอพ่นปล่อยจากอากาศยาน
อาวุธนี้มีชื่อว่า “โมลนียา” พัฒนาโดยบริษัท “กรันชตัดท์”
การพัฒนาที่คล้ายกันนี้กำลังดำเนินการในอีกหลายประเทศเช่นกัน ทั้งอเมริกา ยุโรป และจีน
“โมลนียา” จะมีลักษณะโดยทั่วไปคล้ายจรวดร่อน คือมีรูปร่างยาว ติดตั้งเครื่องยนต์ไอพ่น มีปีกที่พับได้ สามารถปล่อยจากอากาศยานได้หลายชนิด ทั้งเครื่องบินขนส่งและเครื่องบินรบ ติดตั้งใช้งานบริเวณจุดติดอาวุธนอกลำตัว ,ในช่องเก็บอาวุธ และในห้องบรรทุกสัมภาระของเครื่องบินขนส่ง ขณะที่เครื่องบินรบรุ่นใหม่”Su-57″ นั้นสามารถบรรทุกมันไปได้ถึง 8 ลำ และในอนาคตโดรนโจมตี S-70 “อาโคตนิก” ก็จะติดอาวุธ “โมลนียา”ด้วยเช่นกัน
เบื้องต้น”โมลนียา”จะมีความยาว 1.5 เมตร ,ความยาวปีก 1.2 เมตร ,ความเร็ว 600-700 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บรรทุกอาวุธติดหัวรบ 5-7 กิโลกรัม ซึ่งเพียงพอที่จะทำลายรถถังและโจมตีทหารราบในที่กำบัง มีระยะทำการหลายร้อยเมตร ออกแบบด้วยเทคโนโลยีล่องหน เคลือบสารพิเศษ ,ใช้ท่อไอพ่นแบน และมีช่องรับอากาศอยู่ด้านบน
สิ่งที่พิเศษคือ “โมลนิลยา” ออกแบบมาให้ปฏิบัติการเป็นฝูง สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันขณะปฏิบัติการได้เอง ซึ่งสิ่งนี้ตะวันตกเรียกว่า “Drone Swarm”
ในอนาคตกองทัพสหรัฐก็จะนำยุทธวิธีนี้ไปใช้ในปฏิบัติการทางอากาศเช่นกัน จึงทำให้ยากมากที่จะจัดการกับเป้าหมายขนาดเล็ก ล่องหน มีความเร็วสูง และมาเป็นฝูงแบบนี้ได้
พลโท จอห์น เมอร์เรย์ ผู้บัญชาการกองทัพอนาคตแห่งสหรัฐ (United States Army Futures) กล่าวว่าปฏิกิริยาของมนุษย์ไม่สามารถตอบสนองได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงพอในการต่อต้านการโจมตีจากฝูงโดรนหลายสิบหรือหลายร้อยลำ โดยเฉพาะโดรนที่ถูกสร้างด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์
ในเดือนตุลาคมปี 2016 อเมริกาได้ทดสอบไมโครโดรนอัจฉริยะ “Perdix”
โดรนขนาดเท่าอีกาจำนวน 103 เครื่อง ได้แปรรูปขบวนอย่างเป็นอิสระปราศจากการควบคุมจากมนุษย์ อย่างน่าอัศจรรย์
แม้ “Perdix” จะเป็นโดรนลาดตระเวนแต่ก็ไม่ตัดความเป็นไปได้ที่จะถูกนำมาติดอาวุธ และถ้าหากมันได้รับการติดอาวุธ นั่นหมายถึงสหรัฐฯมีอาวุธที่น่ากลัวและราคาถูกอยู่ในมือ
แต่ในส่วนของ “โมลนียา”นั้น นอกจากจะสามารถโจมตีได้แล้ว มันยังสามารถทำภารกิจลาดตะเวนสอดแนม ชี้เป้า รวมทั้งทำสงครามอิเล็กทรอนิกส์ได้ด้วย.
ที่มา:RIA novosti.