บันทึกของทหารเยอรมัน(ส่วนหนึ่ง)เกี่ยวกับทหารโซเวียต จากหนังสือเรื่อง “ปี 1941 ในสายตาของเยอรมัน” (1941 год глазами немцев) ของโรเบิร์ต เคอร์ชอว์ “
“ระหว่างการต่อสู้กับกองทัพแดง เราได้เผชิญหน้ากับรถถังเบา T-26 คันหนึ่ง ซึ่งเราสามารถทำลายมันได้เกือบจะทันทีด้วยปืนต่อสูรถถังขนาด 37 มิลลิเมตร หลังจากนั้นเมื่อเราเข้าไปใกล้ซากรถคันดังกล่าว พลประจำรถคนหนึ่งก็ตะเกียกตะกายออกมาจากช่องหอคอยด้านบนและเปิดฉากยิงใส่เราทันทีด้วยปืนพกประจำกาย ซึ่งตอนนั้นเราได้สังเกตุเห็นว่าขาของเขาขาดไปข้างหนึ่ง แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังพยายามยิงปืนใส่เราไม่หยุดจนกระทั่งลมหายใจสุดท้ายของเขา” บันทึกจากพลประจำปืนต่อต้านรถถังของเยอรมันคนหนึ่ง
“เราแทบจะจับพวกเขาเป็นเชลยไม่ได้เลย เพราะพวกเขามักจะต่อสู้จนถึงคนสุดท้ายเสมอ พวกเขาไม่ยอมแพ้ ความเด็ดเดี่ยวของเราไม่สามารถเทียบกับพวกเข้าได้เลย . “ บันทึกจากพลประจำรถถังของกลุ่มกองทัพกลางคนหนึ่ง
หลังจากกองพันที่ 3 ของกรมทหารราบที่ 18 จำนวน 800 นาย สามารถป้องกันแนวรบไว้ได้จากการโจมตีของทหารกองทัพแดง 5 นาย พันตรีนอยฮอฟ ผู้บังคับกองพันได้กล่าวกับแพทย์ประจำกองพันว่า
“ผมไม่คิดว่าจะได้เจออะไรแบบนี้ในชีวิต การบุกโจมตีทหารทั้งกองพันด้วยกำลังเพียง 5 นายนี่เป็นการฆ่าตัวตายชัดๆ”

“แนวรบด้านตะวันออกทำให้ผมได้เจอกับเผ่าพันธ์มนุษย์ที่ไม่เหมือนใคร ผมเพิ่งการเห็นการต่อสู้ต้านทานแบบเอาเป็นเอาตายที่นี่เป็นครั้งแรก” บันทึกจาก ฮานส์ เบคเกอร์ พลประจำรถถังจากกองยานเกราะที่ 12
“คุณไม่มีทางเชื่อเรื่องนี้แน่ๆ ถ้าไม่ได้เห็นด้วยตาคุณเอง ทหารของกองทัพแดงปักหลักยิงปืนใส่เราจากบ้านที่ถูกไฟไหม้ จนตัวเขาถูกเผาทั้งเป็นไปกับบ้านหลังนั้น “ บันทึกจากทหารเยอรมันสังกัดกองยานเกราะที่ 7 คนหนึ่ง
“คุณภาพของหน่วยบินโซเวียตสูงกว่าที่คิดไว้มาก การต้านทานอย่างดุเดือดจากรูปร่างที่ใหญ่โตของมันไม่สอดคล้องกับสมมติฐานเบื้องต้นของเราเลยสักนิด” บันทึกจากพลตรีฮอฟมานน์ ฟอน วัลเดา
“ผมไม่เคยเห็นใครดุดันเท่าพวกรัสเซียมาก่อนเลย นี่คือหมาล่ามโซ่ของจริง! คุณไม่มีทางคาดเดาอะไรได้เลยว่าพวกเขาจะมาไม้ไหน ถึงแม้พวกเขาจะไม่มีรถถังหรืออะไรเลยก็ตาม“ บันทึกจากทหารนายหนึ่งของกลุ่มกองทัพกลาง
“ครั้งแรกที่เจอกับการต้านทานจากทหารรัสเซียผมก็รู้สึกได้ทันทีถึงความแตกต่างอย่างมากจากพวกโปแลนด์และพันธมิตรที่พ่ายแพ้แก่เราในแนวรบด้านตะวันตก แม้จะตกอยู่ในสภาพที่เสียเปรียบแค่ไหนพวกรัสเซียก็สู้อย่างเอาเป็นเอาตายโดยไม่สนใจอะไรเลย” บันทึกจาก พลตรี ฮุนเตอร์ บลูเมนทริตต์ เสนาธิการกองทัพที่ 4